สิวที่หลัง เชื่อว่าเป็นปัญหาใหญ่ของทุกคนที่ดูแลตัวเองและคนที่ใส่ใจด้านความสวยความงาม ถึงจะเกิดในร่มผ้าที่ไม่มีใครเห็น แต่ก็ทำให้ขาดความมั่นใจไปเลย มันรำคาญใจนัก อยากจะใส่เสื้อผ้าตัวเก่งดีไซด์เก๋เปิดหลัง แนวจี๊ดๆซักตัว "แต่ก็เห็นรอยแดงรอยดำจากสิว" วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การรักษาสิวที่หลังและรอยดำด้วยตนเองให้กลับมาสวยเรียบเนียนได้เหมือนเดิมโดยวิธีง่ายๆ ด้วยงบประหยัดไม่กี่ร้อยบาท ก็เลยอยากเอามาแนะนำให้กับคนที่มีปัญหาแบบเดียวกัน อยากมีแผ่นหลังเนียนสวย จะได้กลับมาใส่เสื้อผ้าตัวเก่งได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง

ปกติเคลียร์เป็นคนผิวแพ้ง่ายมาก แพ้ฝุ่น แพ้อากาศ แพ้สารเคมี บลาๆ ดังนั้นไม่แปลกที่จะเกิดสิวเห่อ สิวอักเสบทั้งด้านหน้าด้านหลัง สารพัดรูปแบบของสิวที่เป็นมาจนเป็นแผลเป็นกันมาทั้งตัวแล้ว แต่ในเมื่อรู้ตัวว่าเป็นสิวง่ายและบ่อยด้วยก็ต้องรู้จักหาวิธีดูแลรักษาและกำจัดมันออกไปจากชีวิตให้ได้ !!
ก่อนอื่นมารู้จักกันก่อนว่า สาเหตุการเกิดสิวที่หลังมีอะไรบ้าง
- ฮอร์โมน การเกิดสิวทุกที่บนร่างกายไม่ว่าจะเป็นที่ใบหน้า หลัง ไหล่ ก้น หรือหน้าอก ล้วนเกิดจากการแปรปรวนของฮอร์โมนในร่างกายตัวเอง เพราะต่อมไขมันในร่างกายมีการทำงานมากจนเกินไป
- เชื้อรา พี โอวาเล ซึ่งปกติมีเชื้อราตัวนี้อยู่ตามผิวหนังของคนเราอยู่แล้ว แต่สาเหตุที่เกิดสิวเพราะ มีปริมาณมากกว่าปกติ ซึ่งถ้ามีไขมันที่เชื้อราชอบก็จะเกิดการแบ่งตัวมากขึ้น และปล่อยสารย่อยสลายออกมา นั่นหล่ะที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ
- เหงื่อไคล ด้วยสภาพอากาศร้อนชื้นระดับสิบของเมืองไทยทำให้เหงื่ออกง่าย หมักหมม เมื่ออากาศร้อนรูขุมขนเปิดกว้างเกิดการสะสมของแบคทีเรีย และกระตุ้นสิวให้เกิดขึ้น หรือจากสาเหตุอื่นๆอีก เช่น สวมเสื้อผ้าที่ร้อนอับ หมักหมมไม่อาบน้ำทันทีหลังเล่นกีฬา ผ้าปูที่นอนสกปรก รวมไปถึงหมอนที่นอนล้ำลายหกบ้างไรบ้าง ชุดนอนใส่ซ้ำ และผ้าห่มอีกด้วย
- ผิวหนังแพ้ง่าย ระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์เคมีใช้ซักผ้า หรือปรับผ้านุ่มต่างๆ แพ้น้ำ สบู่ หรือ แชมพู เมื่อรู้ตัวว่าแพ้ก็เปลี่ยนซะค่ะ !!
- เครื่องสำอาง มีอาการแพ้เครื่องสำอางบางชนิด ประเภทมีส่วนผสมของน้ำมันหรือไขมันมากเกินไป รวมไปถึงน้ำหอมด้วย
- การกินอาหารประเภททอดๆ มันๆ จะทำให้เกิดภาวะผิวมันขึ้น ซึ่งจะเกิดสิวได้ง่าย
วิธีรักษาสิวที่หลังง่ายๆด้วยตัวเอง มีด้วยกัน 2 วิธีคือ
1. รักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ ผดผื่น ให้ลดลงและหายหมดซะก่อน
สบู่อาบน้ำรักษาสิว
มีสบู่อาบน้ำหลายยี่ห้อที่เป็นสบู่สูตรรักษาสิวโดยเฉพาะ อาจมีแสบ ผิวแห้งนิดๆ ให้ใช้ไปเรื่อยๆแล้วสิวจะค่อยๆยุบและแห้งลงประมาณ 1 - 2 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคนด้วย

ที่มา : http://www.sabunngaherbs.com
ราคาประมาณ 57 บาท
ทำความสะอาดผิวที่หลังด้วยน้ำเกลือหรือโทนเนอร์
ใช้น้ำเกลือหรือโทนเนอร์ชุบสำลีแล้วเช็ดทำความสะอาดบริเวณหลังที่เป็นสิวเป็นประจำ ทั้งช่วงเช้า - ก่อนนอน จะช่วยให้สิวค่อยๆแห้ง และยุบลงไป
ราคาขวดละ 45 บาท

ใช้อ๊อกซี่ เคียว บอดี้ แอคเน่ สเปรย์
เราใช้อันนี้แหละฉีดบริเวณที่เป็นสิว หลังอาบน้ำ เช้า-เย็นทุกวันจนกว่าสิวจะหายจึงค่อยหยุด ช่วงแรกอาจจะแสบผิวบ้างเป็นปกติค่ะ ไม่อันตราย แต่ถ้าอยากหายเร็วๆต้องอดทน เนื่องจากสเปรย์ผลิตจากสารสกัดจากธรรมชาติที่ขจัดเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบของสิวและป้องกันสิวบริเวณแผ่นหลัง ลำตัว และหน้าอก ช่วยทำให้สิวแห้งเร็วและลดรอยแดงและรอยดำ ราคาขวดละประมาณ 255 บาทเองจ้ะ

ที่มา : http://oxecurethailand.com
2. รักษารอยแดงและรอยดำที่เกิดจากสิวและฟื้นฟูสภาพผิวบนแผ่นหลังเรียบเนียนสวยได้ดังเดิม
ทำให้รอยแดงและรอยดำจากสิวจางหายไป และฟื้นฟูผิวให้กลับมามีแผ่นหลังที่เรียบเนียนใสดังเดิม โดยไม่พึ่งยากินรักษาสิวเลย เพราะขึ้นชื่อยาปฏิชีวนะ ส่งผลต่อร่างกายโดยตรงทำให้ตับทำงานหนักขึ้นด้วย วิธีต่อไปนี้รักษารอยดำต่างๆได้ผลดีจริง และทดลองมาแล้ว ลองไปปรับใช้กันดูกันนะจ้ะ
ใช้เกลือ + เปลือกส้มขัดผิว
เกลือมีฤทธิ์ช่วยขจัดแบคทีเรียและลดการอักเสบได้ดีมาก ส่วนผสมหาได้ง่ายๆเลยที่บ้าน โดยใช้เกลือผสมกับเปลือกส้มบดละเอียด ขัดผิวและทิ้งไว้ 15-20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด นอกจากจะช่วยรักษาสิวแล้วยังผ่อนคลายเต็มๆกับกลิ่นส้มเสมือนทำสปาขัดผิวเองที่บ้าน ต้องจัดนะคะ...


ใช้เกลือขัดผิว
หาซื้อตามซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือร้าน 7-11 ทั่วไปได้เลย นำมาขัดผิวและล้างออก แต่ไม่ควรขัดถูบริเวณที่ยังเป็นสิวอยู่อย่างรุนแรงมากจนเกินไป เพราะยิ่งรุนแรงกับผิวมากเท่าไหร่ สิวก็จะยิ่งมีจำนวนมากขึ้นเท่านั้น รอให้หายเหลือแต่รอยดำแล้วค่อยขัดจะมั่นใจมากกว่าค่ะ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง สม่ำเสมอนะคะ รอยจะค่อยๆลดลง และหายเรียบเนียนได้ในที่สุด ราคาตั้งแต่ 59 -109 บาท

ที่มา : www.siamyoko.com
หมั่นรักษาความสะอาดของที่นอน
ชุดที่นอนที่เรานอนกันทุกวัน นั่นคือตัวหมักหมมของเชื้อโรคและฝุ่นละออง เราสัมผัสกับมันมากกว่า 6 ชั่วโมงซะอีก บางคนมีเหงื่อไคลไปสัมผัสกับหมอน ผ้าปูที่นอน และทานขนมบนเตียงอีก ซึ่งเป็นสาเหตุของสิว ดังนั้นหมั่นทำความสะอาดชุดเครื่องนอนบ้างช่วยได้มากทีเดียว

ใยบวบขัดแผ่นหลังเมื่อสิวแห้ง
ทางเลือกสุดท้ายง่ายๆเลย เมื่อสิวแห้งแล้ว ให้ใช้ใยบวบที่สะอาด ถูเบาๆที่แผ่นหลังใช้ร่วมกับสบู่รักษาสิวนั่นหล่ะ ให้ทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและลบเลือนรวยสิว ทำให้หลังกลับมาเรียบเนียนเร็วยิ่งขึ้น
อาจจะต้องใช้เวลาในการรักษานานซักหน่อย 2-3 เดือนขึ้นอยู่กับสภาพผิว และความสม่ำเสมอนะคะ ไม่มีใครอยากให้ไอ้เจ้าสิวมันขึ้นมาหรอก แต่ถ้ามันขึ้นมาแล้วก็ต้องสู้กันถึงที่สุด ขอให้กำลังคนที่กำลังเผชิญกับสิวที่หลังและกำลังรักษา อยากให้อดทนและพยายามเข้าไว้จากคนที่เคยเป็นเหมือนกัน และอยากให้คุณลองวิธีรักษาสิวที่หลัง แต่ละวิธีดู แล้วจะพบวิธีที่เหมาะกับคุณ ได้แผ่นหลังเรียบเนียนกลับมา อยากจะใส่เสื้อเกร๋ๆ แซ่บๆ โชวว์หลังแค่ไหนก็ได้ ลงมือตั้งแต่วันนี้เลย !!
กระวาน
จะลองดูนะคะ
Clear
รับประกันว่าหายจริง กลับมาขาวใสเช่นเดิมแน่นอนค่ะ
Piwty
เป็นประโยชน์มากๆๆๆ ขอบคุณค่ะ
Sarasawadee
กำลังเป็นเยอะเลยค่ะตอนนี้ จะลองไปใช้ดู ขอบคุณที่ให้คำแนะนำดีๆค่ะ
Clear
ด้วยความยินดีเลยค่ะ
Jira
สบู่ ซองสีน้ำตาล ขาว อันที่สอง หาซื้อได้ที่ไหนบ้างคะ
Clear
เท่าที่เคยเห็นคือ ลองเช็คดูที่ Top Supermarket หรือ ที่ร้าน EVEANDBOY แต่ถ้าอยู่ต่างจังหวัดหรือไกลสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้เลยค่ะ สะดวกและง่ายกว่า
รักษาสิว
ดีงาม
smewt
สบู่หาซื้อได้ที่ไหนหรอคะ
Clear
ร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปค่ะ
Clear
ร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปค่ะ
ติ๊ดตี่
มีประโยชน์ค่ะ
Clear
Thank you <3
รอยสิว
มีครีมลดรอยสิวแนะนำไหมคะ
Clear
ส่วนตัวครีมที่ใช้นอกเหนือจากที่เขียนรีวิวไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ค่ะเลยไม่ได้ลงในกระทู้เน้นไปที่การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้จริงๆเท่านั้น
อยากหาย
คือยังงงๆนิดหน่อยค่ะ
อย่างสบู่ก้ให้เลือกลอง1จาก2ตัวนี้ อาบเสร็จก็ใช้น้ำเกลือเช็ด แล้วพ่นสเปรย์ออกซิเคียวต่อ ทำสเตปนี้เรื่อยๆจนสิวแห้งเหลือแต่รอย ค่อยเริ่มใช้เกลือตำด้วยเปลือกส้มถูขัดหลังแช่ทิ้งไว้หรืออีกทางคือใยบวบ แบบนีเข้าใจถูกไหมคะ
Clear
เข้าใจถูกแล้วค่ะ เพราะ ถ้าใช้เกลือขัดผิวขัดแรงมากเกินไปในช่วงเวลาที่สิวกำลัอักเสบทำให้เกิดการระคายเคืองหรือเห่อได้ ช่วงที่สิวแห้งผิวเราก็แห้งเช่นกันค่อยฟื้นฟูสภาพสภาพผิวใหม่ และในส่วนของสบู่ที่ใช้คุณสามารถเลือกใช้สบู่รักษาสิวที่เหมาะกับสภาพผิวคุณโดยไม่จำเป็นต้องเป็น 1 ใน 2 ตัวนี้ก็ได้ค่ะ ในกระทู้นี้เคลียร์เพียงแค่แนะนำผลิตภัณฑ์ตัวที่เราใช้ได้ผลกับตัวเองแต่สภาพผิวแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้วค่ะ