ສະບາຍດີ
วันนี้ขอพาเพื่อนๆมาเที่ยว กุ้ยหลินเมืองลาว หรือ วังเวียง (Vang Vieng) เป็นเมืองท่องเที่ยวแขวงเวียงจันทน์ห่างแค่ 160 km. ที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ ภูเขาหินปูน ป่าไม้ที่สมบูรณ์ อยู่ติดแม่น้ำซองซะด้วย แถมที่นี่กิจกรรมเพียบเลยนะ ! นั่นคือเหตุผลที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมมาเยือนวังเวียงไม่ขาดสาย เคลียร์อ่านรีวิวเที่ยวลาว - วังเวียงมาเยอะพอสมควร (ทุกคนเคยมาอยู่แล้ว) แต่ไลฟ์สไตล์เคลียร์ชัดเจนนะ 55 จะพาเพื่อนๆตะลุยเที่ยววังเวียงกับสายฝอในแบบฉบับของตัวเองดีกว่า เคลียร์มาพร้อมกับความมันส์...เสมอ พร้อมแล้วก็ไปกัน
ข้อมูลเพิ่มเติมวังเวียง-ประเทศลาว
สามารถเช็คดีลเจ๋งๆและที่พักได้สะดวกง่ายๆ ที่เว็บไซด์ Agoda และ Booking
ทำให้การเดินทางของคุณง่ายขึ้นผ่าน EasyBook - book bus, van etc onine
ประกันการเดินทาง World Nomads ที่ดีเยี่ยมและครอบคลุม รักจะเที่ยวอย่าลืมรักชีวิตด้วย
ทางเลือกใหม่กับการจองที่พักผ่าน Airbnb จองโดยตรงกับคนท้องถิ่นผ่าน Link ฟรีส่วนลด Booking 1,100 บาท
รีวิวรถไฟขบวนใหม่กรุงเทพ - หนองคายแจ่มกว่าที่คิด
พวกเราเลือกเดินทางกับรถไฟตู้นอนจากสถานีหัวลำโพงปลายทางกรุงเทพ - หนองคายรอบ 2 ทุ่มตรง ค่าตั๋ว 748 บาทเองจ้า ดีงามสมราคานะจ้ะ เอ้า...พวกเรามาถึงก่อนเวลาซะงั้น แวะชิลกับ Street food แถวนี้ก่อนโนะ ของกินเพียบ!
และแล้วก็ทนไม่ไหวค่า จบด้วยข้าวอย่างเป็นทางการ ฮ่าๆ
เข้ามาต่อที่ด้านในกัน...โหว คนเยอะกว่าที่คิดนะ ไม่มีเก้าอี้ว่าง นั่งพื้นแบบเย็นก้นสบายๆก็มี น่ารักอ่ะ แฟนถาม "อย่างงี้ก็ได้หรอ ?" แต่โดยรวมสะอาดดี แถมอากาศเย็นสบายนะจ้ะ
ที่นั่งจะเป็นเก้าอี้ 2 ตัวหันหน้าชนกัน มี 2 ชั้นนะจ้ะ ตอนตกดึกจะมีเจ้าหน้าที่มาบริการปูเตียง เตรียมหมอน ผ้าห่มให้ค่ะ สะอาดและดีกว่าที่คาดหวังไว้เยอะมว้าก ปรบมือรัวๆ
มาทัวร์ห้องอื่นๆกันบ้างดีกว่าค่ะ ที่นี่มีมาตรฐานและปลอดภัยมาก ไฟสว่างจ้ายันเช้า เดินเล่นรอบๆได้สบายหายห่วง แถมมีห้องอาหารและเครื่องดื่มคอยบริการนะจ้ะ กระซิบบอกก่อนว่าคนแน่นตลอด โล่งแบบนี้เพราะดึกมากแล้ว
ห้องน้ำจะอยู่ติดกับประตูโบกี้เลยหาไม่ยาก พีคสุดก็ต้องสายฉีดแหละ (ระวังน้ำแรงเวอร์) ใหม่ สะอาด น่าใช้บริการค่ะ
ขอปิดท้ายกันด้วยภาพแสงยามอาทิตย์ยามเช้าที่มองจากขอบหน้าต่างรถไฟ ตื่นอัตโนมัติเลยจ้าถ้าวิวจะสวยขนาดนี้นะ !
สุดทรหดกว่าจะถึงวังเวียง
พวกเราลงสถานีหนองคาย 6 โมงนิดๆ จากนั้นต้องต่อรถไปด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะไปไม่ถูกค่ะ เดินออกมาปั้ปจะเจอเหล่าคนขับรถตุ้กๆ หรือที่เรียกกันว่ารถสกายแล๊ปมาต่อสู้แย่งลูกค้ากันอย่างสุดพลัง ราคาก็แรงอยู่...ต่อได้ต่อยับเลยค่า สรุปคือจ่ายค่ารถตุ้กๆไปคนละ 30 บาท (ลุงใจดีมาก)
มาถึงด่านฝั่งไทยก็จัดการเอกสารให้เรียบร้อย พร้อมจ่ายค่าผ่านประตู 55 บาท และซื้อตั๋วรสบัสเข้าด่านฝั่งลาวราคา 20 บาท ด้านหน้าจุดรอรถเลยจ้า
เมื่อผ่านด่านฝั่งลาวเรียบร้อยก็ต่อรถบัสเข้าเมือง เวียนเทียน (Vientiane) คนละ 100 บาท อีกทางเลือกต่อรถบัสเขียวสาย 132 เข้าเมืองก็ได้นะจ้ะ เข้าเมืองใช่ว่าจบ...ต้องต่อรถไปวังเวียงอีกจ้า(ไม่มีรถไปโดยตรง) ต่อรถจนมึนเลยขอนั่งรถตู้ VIP ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. เพื่อความรวดเร็ว 150000 กีบ/2คน (641 บาท) ราคาขูดเลือดมากแนะนำใช้ภาษาไทยต่อให้ยับที่สุดค่ะเพราะนางขายตั๋วไม่เท่ากันเนาะ ญี่ปุ่นนั่งแถวหน้าจ่ายราคาโหดกว่านี้อีก (เราถามเค้ามา ) แถมพูดกับเราอีกว่า...ห้ามบอกญี่ปุ่น !!
รวมค่าเดินทางจากกรุงเทพจนถึงวังเวียงทั้งหมด 1,273 บาท/คนค่ะ
วังเวียง (Vang Vieng)
สามารถเช็คดีลเจ๋งๆและที่พักได้สะดวกง่ายๆ ที่เว็บไซด์ Agoda และ Booking
ขอใช้คำว่า โคตรเมื่อยตูด ! (ขออภัยถ้าไม่สุภาพ) รถตู้ปล่อยลงที่ศาลาด้านหน้าถนนสายหลักโดยอ้างว่าตำรวจคุมด้านในไม่ให้รถขับผ่านเข้าไป เ_ย (อุทานอย่างดัง)...ก็เห็นรถขับผ่านเข้าไปต่อหน้าต่อตาตั้งหลายคันเนี่ย คือ โดนเทกลางทางอ่ะค่ะ ! (ไอ้ตอนคุยกันคือส่งหน้าโรงแรมนะ ) แถมไม่ยอมบอกทางเข้าเราอีกกะจะให้นั่ง 3 ล้อไปทั้งที่มันใกล้มาก(รู้กัน..ส่งซิกกันชัดมาก!) เดินไปถามคนไทยที่ยืนอยู่ใกล้ๆเลยค่ะ คนไทยใจดีน่ารักกว่าเยอะ...จบดราม่าแล้วเดินหน้าต่อไปโรงแรมค่ะ
Laos Haven Hotel & Spa
โรงแรมลาวเฮเว่น (Laos Haven Hotel & Spa) โรงแรม 3 ดาว ตั้งอยู่ใจกลางวังเวียง ใกล้แหล่งบันเทิงยามค่ำคืน แหล่งช็อปปิ้ง และร้านอาหารแค่ 5 นาที และไม่ไกลจาก Vang Vieng Bus Station ที่นี่บรรยากาศดี วิวสวย มีสระว่ายน้ำ (กำลังสร้างอยู่...แต่น้ำนี่เย็นสะท้านเลยนะ) และประเด็นหลักคือราคาหลักร้อย !
จองโรงแรมได้ที่นี่ Book on Agoda // Book on Booking.com
รู้สึกว่าเจ้าของจะเป็นคนไทยอ่ะ ใจดีมาก จองห้องเล็กอัพเป็นห้องใหญ่สุดตึกใหม่ให้เราเลย เป็นไม้ทั้งเรือน ที่นี่สะอาด สวยเหมาะสมราคาแนะนำแบ็คแพ็คเกอร์ทั้งหลายเลยจ้ะ
สนใจติดต่อได้ที่
ที่อยู่ : 047 Vieng Keo Village Van Vieng Laos PDR.
อีเมลล์ : info@laoshaven.com
โทร : +856 23 511 900
พักอาบน้ำหลังจากเดินทางมาทั้งวัน ก็ได้เวลาอาหารว่างแล้วย่านใกล้ที่พักมีร้านริมถนนขายขนมปังยอดฮิตแบบฉบับชาวลาวกันซะก่อน เรียกว่าข้าวจี่ปาเต๊ะ ชิ้นใหญ่บึ้มคล้ายแซนวิซ เป็นฟาสต์ฟู้ดที่มีขายทั่วไปตามถนนหนทาง รสชาติจืด กรอบนอกนุ่มใน แถมสอดไส้ต่างๆและราดซอส จัดไป 2 ก้อน อิ่มนานมาก
ร้านติดกันแต่ขายเหมือนกัน...เอิ่ม เลือกแม่ค้าที่ถูกชะตะละกันนะ
หลังจากนั้นก็งานสำรวจวังเวียง เดินเล่น ใช้ชีวิตเรื่อยๆ ช้าๆ แบบฉบับชาวลาวสินะ
เมืองวังเวียง (Vang Vieng) เป็นเมืองเล็กๆที่โอบล้อมด้วยขุนเขาสีเขียว ไอหมอกสีขาวนวลลอยอยู่เต็มท้องฟ้า และแม่น้ำซองสายน้ำคู่เมืองทอดยาวตลอดสายตั้งแต่อดีตกาลของชาววังเวียง ดังนั้นที่นี่จึงเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวสไตล์แบ็กแพ็กเสมอมา บ้านเมืองยังคงอนุรักษ์ธรรมชาติ เหมือนทุกสิ่งกำลังปลูกสร้างทำให้ถนนยังคงมีฝุ่นและดินฟุ้งกระจาย เดินมาไม่ต้องทาแป้งเลย !!
ร้านอาหารจะตกแต่งคล้ายๆกันและนั่นคือ signature ของวังเวียง ที่นั่งจะมีฟูกและหมอนอิงสำหรับเอนนอนพร้อมฉายให้ดูด้วย เท่ เกร๋ มีสไตล์เฉพาะตัวด้วย ปลื้มวังเวียงตรงนี้ #ส่วนใหญ่อาหารจะราคานักท่องเที่ยวเลยอ่ะแกร เว้นแต่แอลกอฮลล์สินะ ที่ราคาน่ารักจุ๋มจิ๋มพอรับได้ !!
แทบละลายกับวิวริมแม่น้ำซอง
ที่นี่เค้ามีกิจกรรมแอดเวนเจอร์มากมายรองรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะล่องห่วงยาง ล่องเรือชมแม่น้ำซอง ชมถ้ำ พายเรือคายัก ปั่นจักรยาน ปืนเขา เป็นต้น
best restaurants in vang vieng
Smile Beach Bar ตั้งอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำซอง อาหารอร่อยใช้ได้ ราคาเท่าๆกับที่อื่นแหละ แต่ Option ดูเหนือกว่านิดๆ ดินเนอร์ในซุ้มพร้อมแปลญวนนั่งสบายชมบรรยากาศริมแม่น้ำ เปิดเพลง Chill House คึกคักไปด้วยชาวต่างชาติมา Hang Out รอบกองไฟกัน ตื่นเต้นดีน่าเหมือนปาร์ตี้เล็กๆ ในป่าลึก ห้ามเมานะเพราะสะพานน่ากลัวมาก !
ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติชอบมานั่งร้านที่สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ นั่งชิลบนแพแล้วเอาขาจุ่มน้ำ เงียบสงบ มีแสงไฟตลอดชายฝั่ง โรแม๊นสุดๆเลยอ่ะ
หลวงพระบาง เบเกอรี่ (Luangprabang Bakery) ร้านเบเกอรี่ที่คนแน่นตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน หนุ่มสาวชาวต่างชาติ ทั้งคนพื้นที่ และมีเบียร์ลาวบริการที่นี่ด้วย แวะมานั่งเม้ามอยกับเพื่อนๆ หรือจะนั่งมองหนุ่นเพลินๆก็ฟินนาจา
Riverside Boutique Resort
ริเวอร์ไซด์ บูติค รีสอร์ท (Riverside Boutique Resort) รีสอร์ท 4 ดาวที่ดีที่สุดของวังเวียง ที่นี่รองรับนักเดินทางเพื่อธุรกิจและการพักผ่อนอย่างแท้จริง ตั้งอยู่ริเวอร์ฟร้อนต์ซึ่งเป็นย่านที่นิยมมากที่สุดของเมือง ตั้งอยู่ริมฝั่ง Nam Song River ตกแต่งแบบชนพื้นเมือง และสถาปัตกรรมยุคอาณานิคมฝรั่งเศสที่หรูหรา สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมหลากหลายและแหล่งท่องเที่ยวของตัวเมืองได้แบบสบายๆเลย โดยเสน่ห์ของที่นี่มีสภาพแวดล้อมที่สะอาดเรียบร้อย ใกล้กับโรงพยาบาล โพรวินเชียล โฮสปิทอล บลูลากูน ทัวร์ธรรมชาติ เป็นต้น
จองโรงแรมได้ที่นี่ Book on Agoda // Book on Booking.com
พวกเราพักที่นี่ 3 วัน 2 คืน เค้าบริการชั้นเลิศอ่ะ ห้องสวยเรียบหรู 2 เตียง ระเบียงและอ่างอาบน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อม ไฮไลท์ที่นี่คือ " สวย 360° ทุกซอกทุกมุม " คุณขา จะเซลฟี่มุมไหนก็ไม่ตายค่ะ
อาหารเช้าที่รอคอย
ห้องอาหารของรีสอร์ท Restaurant du Crabe d'Or ให้บริการอาหารตำรับลาวแท้ ตลอดจนอาหารเอเชียและอาหารฝรั่งเศสตำรับดั้งเดิม ทิวทัศน์ริมแม่น้ำแบบสวยมาก มองเห็นเทือกเขาหินปูนเทียบยาวตลอดชายฝั่ง พร้อมไวน์ฝรั่งเศสและชิลีไว้ให้บริการด้วยนะจ้ะ
สนใจติดต่อได้ที่
ที่อยู่ : Ban Viengkeo, PO 360, Vang Vieng,Vientiane Province, Lao PDR
อีเมลล์ : info@riversidevangvieng.com
โทร : +856 (0)23 511 726-8
ชีวิตคูลๆแบบ Slow life ในวังเวียง
พวกเราไม่ได้ซื้อแพ็คเกจเที่ยวแบบ One Day Trip หรอก เพราะตั้งใจว่าจะเที่ยวกันเองอ่ะนะ และความมันส์มันเริ่มตรงนี้แหละ หม่ะ...เริ่มจากเหมารถ 2 แถวไปต้นน้ำที่เค้าล่องห่วงยางกัน แต่เราขอล่องน้องเป็ดนะ พร้อมแล้วก็ไปกันเลย
โชคดีมากที่ร้านซ่อมมอเตอร์ไซด์อยู่หน้าปากซอยพอดีเลย คิดค่าสูบลมน้องเป็ด 40 บาทเอง แต่...พี่แกบอกว่า ไม่เคยมีใครเอาเป็ดมาสูบ แกไม่รู้ทำยังไง แถมลูกแกสนุกสนานกับของเล่นใหม่มาก
เอิ่ม...ลูกชายของพี่ช่างเนี่ยแหละ...ทั้งแตะ ทั้งต่อยซะเป็ดแตกเลย !!!
The Tubing Vang Vieng Laos ล่องห่วงยาง
ล่องห่วงยาง (Tubing) เป็นกิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยว โดยเอาตูดแช่และนั่งบนห่วงแล้วล่องชมธรรมชาติที่สวยงามไปตามกระแสน้ำ โดยจุดเริ่มต้น Tubing นั้นจะมีบาร์อยู่ 4 – 5 บาร์ได้ ซึ่งล่องห่วงยางใช้เวลาไม่นานหรอก แต่เค้าฮิตแวะชิลบาร์ริมทางต่างหากหล่ะ แต่ล่ะบาร์ก็จะมีที่กิจกรรม วอลเล่บอล ฟุตบอล น่าสนุกมั้ยล่า ?
หาได้ที่ไหนล่ะ ? ในการล่องห่วงยางนั้นต้องจ่ายค่าเช่าห่วงยางนะจ้ะ เช่าตามร้านที่ขายห่วงยางในตัวเมืองเลยแล้วจะมีรถนำเราไปปล่อยยังต้นน้ำ ส่วนราคาค่าเช่าอยู่ประมาณ 55000 กีบ มัดจำ 60000 กีบ และถ้านำห่วงยางมาคืนก่อน 6 โมงเย็นถึงจะได้มัดจำคืน (โหดเนาะ..) คนไม่เต็มรถจ่ายเพิ่มอีกนะคะ ขุ่นพระ !
เล่นเก้าอี้ดนตรีที่ First Bar (เพราะเป็ดรั่วกลางทาง)
สวรรค์ของนักเดินทางสายบันเทิง ต้องหยุดที่นี่เลยอ่ะ...เป็นบาร์ร้านแรกถ้าเริ่มนับตั้งแต่ต้นน้ำ เป็ดเคลียร์รั่วกลางทางก็เลยต้องเกาะหัวเป็ด (สงสารสภาพตัวเอง 55)เข้าฝั่งมาบรรจบที่นี่ และ......"ที่นี่มีแต่ต่างชาติน่ะแกร๊รร" ดูเงียบใช่มั้ยล่ะ ? แต่.........
เรื่องจริงที่ทุกคนต้องรู้...คือ ความมันส์ มันมากับนักท่องเที่ยวที่ทำงานที่นี่นั่นเอง พวกนางพากันไปร้านไหน ร้านนั้นจะมีสีสันขึ้นมาทันที ทั้งแสง สี เสียง เกมส์มันส์ๆ และโปรโมชั่นเจ๋งๆ พอจบงานก็ย้ายไปอีกร้าน(คือจะย้ายกันเพื่อ ในเมื่อกลุ่มเดิมทั้งทีม ทั้งลูกค้าด้วย) ทีแรกหลงวุ้ย...เค้าล่องห่วงยางไปไหนกันอ่ะ...เราไม่มีห่วงยาง เฮ้ยจะไปไง๊ฟะ ! กรุ้บที่ทำงานที่นั่นเลยชวนติดเรือไปด้วยกัน ฮี่ๆใครอยากลองมา Join ก็จัดเลย ที่นี่ถือเป็น Landmark ช่วงกลางวันรองจาก ซากุระบาร์เลยอ่ะ
ทุกคนในร้าน friendly เสมือนรู้จักกันมากแต่ชาติปางไหน น่ารักมากยันเด็กน้อย
ตามเค้ามาที่ River Bar
ตามเค้ามาต่อปาร์ตี้ที่ River Bar ที่นี่เน้นโปรโมชั่น Get 1 Free 1 เครื่องดื่มราคาถูก แต่ไม่ค่อยมีเกมส์หรือกิจกรรมมันส์ๆมากนัก นั่งชม Tubing เพลินๆ แต่น่าเสียดายสุดเลยในย่านนี้ไม่อนุญาตให้โหนเชือกอีกต่อไป เพราะมีข่าวว่านักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โหย...อด เลยช้านน
แหม่...ไป shotgun beer กะเค้ากัดกระป๋องยังไม่แตกเละ หลังจากนั้นก็สูญเสียความจำทันทีค่ะ
Shotgun beer คืออะไร ? พี่จะเล่าให้ฟัง...จะได้ไปเล่นกับเค้าแบบไม่นอยด์เด้อ ต้องเจาะรูเล็กๆที่ก้นกระป๋องเบียร์(กัดหรืองัดด้วยนิ้ว!) แล้วเปิดฝา นาทีนี้แหละคือสำคัญ ดื่มสู้กับแรงดันเร็วที่สุดเท่าที่ไหว จะรู้สึกละมุนในปากมาก ในตอนแรกอาจจะฝืนๆหน่อย แต่เชื่อเถอะหลังจากลองแค่ครั้งเดียว จะ Strong อย่างมืออาชีพนะจ้ะ ต้องลอง !
กลับบ้านนอนกับความทรงจำสีจางขากลับ สิ่งที่เห็นคือ "และน้องหมาตัวนี้แหละที่ปล้ำลูกสาวชั้น ไม่นะ !!" ซากุระบาร์ พรุ่งนี้นะพี่น็อค 🙁
สวีทใต้แสงเทียนริมสระน้ำ
ริเวอร์ไซด์ บูติค รีสอร์ท (Riverside Boutique Resort) ขึ้นชื่อมากเรื่องบรรยากาศสุดโรแมนติกยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงเทียน ! แต่ระหว่างการรอคอยนั้น...นอนชมบอลลูนยามเย็นที่ทุกคนให้ความสนใจ ไม่ได้ขึ้นบอลลูนแต่ได้เก็บภาพก็ยังดีน่า
ก็บอกแล้วไงคะ....ที่ริเวอร์ไซด์ บูติค รีสอร์ทจะเซลฟี่มุมไหนก็ไม่ตาย
เส้นทางวิบากสู่ blue lagoon
จากตัวเมืองวังเวียงไปบลูลากูนมีระยะทางประมาณ 7 km. ทีแรกเราโดนแฟนหลอก "ไปเองง่ายกว่าเยอะเลย เหมือนออกกำลังกาย " นาทีนั้นแบบไม่ได้เอะใจแม้แต่น้อยค่ะ โดยพวกเราปั่นจักรยานของรีสอร์ทไป (มีให้บริการฟรีของ ริเวอร์ไซด์ บูติค รีสอร์ทสำหรับผูเข้าพัก) แม่จ้าววว....ปั่นไปซักพัก ทำไมเห็นแต่วิว ทุ่งหญ้าป่าและวัว ไหนป้ายบอกทาง !!!! เดินทางผ่านสะพานเหล็กข้ามแม่น้ำซอง ทางนี่แบบถนนลูกรังชัดๆ เป็นหลุมขรุขระ ชนบทสุดๆเลยอ่ะ รู้สึกเหมือนกำลังเดินทางแบบไม่มีจุดหมาย.....
บลูลากูน (Blue Lagoon) แหล่งน้ำสีฟ้าใสแจ๋วที่เกิดเองตามธรรมชาติ อยู่บริเวณด้านหน้าของถ้ำภูคำ (Phu Kham Cave) นักท่องเที่ยวนิยมว่ายน้ำอย่างสนุกสนาน และไฮไลท์ของที่นี่คงหนีไม่พ้นต้นไม้ใหญ่ในตำนาน (ที่ทุกคนพูดถึงมากที่สุด!) ที่มีเชือกสำหรับโหนและกระโดดน้ำ "ที่ใครมาต้องโดด ไม่งั้นมาไม่ถึง" ทั้งครบครันไปด้วยบริการเช่าห่วงยางและจำหน่ายอาหารอยู่ด้านในด้วย
นี่แหละความเย็นสะท้านจักรวาล ที่ใครว่าว่ายน้ำเก่งแค่ไหนขาก็ชาได้...เย็นเยือกจนต้องร้องขอชีวิต !
ลองส้มตำเจ้าดั้งเดิม 😛
ด้านในจะมีบริการจำหน่ายอาหารทั้งร้านสะดวกซื้อ ขุ่นพระ...ส้มตำลาว + ไก่ย่าง ประมาณ 250 บาท !!! กำลังจะสั่งข้าวเหนียวต่อ พอบอกราคาทีเดียว...."เอาแค่นี้ก่อนละกันค่ะ"
จานนี้เน้นโปรตีน...กรุบกริบ กลมกล่อม แมลงเพียบแต่อร่อย นาจา !
"พ่อแก้วแม่แก้วขา...ปั่นจักรยานไป-กลับหนูจะละลายกลางแดดอยู่แล้ว" ยังไม่ทันจะไปจุดชมวิวเลย หมดแรงซะละ
เคยอยากฆ่าแฟนตัวเองกันบ้างมั้ย ?! เคลียร์โดนแกล้งทุกทริปเลยอ่ะ...พอเห็นหน้าหล่อๆเท่านั้นแหละ เอิ่ม...."ปั่นต่อก็ด่ะ "
ข้อดี 14 กิโล ไม่ต้องไปถ่ายรูป View point
ระยะทางไป-กลับ 14 กิโลไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป "ใกล้ชิดธรรมชาติแบบ...แทบจะปั่นจักรยานชนวัวเลยล่ะค่า" 555
Vanphaxay Restaurant
ร้าน Vanphaxay ร้านติดอันดับ tripadvisor ในวังเวียง ตั้งอยู่บนเนินริมน้ำนั่งสบาย มีฟูกนอนอิ่มแล้วเอนเลย ส่วนตัวชอบบรรยากาศที่นี่มากเพราะวิวสวย นั่งจิบเบียร์วุ้นๆแล้วฟิน อาหารร้านนี้อร่อยที่สุดแล้ววววว......ตั้งแต่กินที่วังเวียง (งดดราม่า ความชอบส่วนตัว) แถมราคาไม่แรงเวอร์วังนะจ้ะ
เมนูเด็ดขอยกนิ้วให้เจ้าสเต็กไก่อบน้ำผึ้งจานนี้เลย อร่อยแบบไม่เคยกินที่ไหน...มีความเลิศเฉพาะตัว ต้องมาลอง แต่แอบผิดหวังเจ้าลาบลาว(เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อและนิยมอันดับต้นๆ) รสชาติจืดกว่าที่เราคิดอีก ไม่แซ่บอ่ะหรือคนไทยกินรสจัดก็ไม่รู้นะ
sakura bar
ซากุระบาร์ (Sakura Bar) บาร์ที่เรียกได้ว่าเป็น landmark แห่งวังเวียงเลยก็ว่าได้ ใครไม่ได้มาเยือนเสมือนว่ามาไม่ถึง ตกแต่งแบบบ้านๆบรรยากาศเป็นกันเอง ไม่มีวังเวงนะจ้ะเพราะโปรโมชั่นเจ๋งๆ ฟรีดริ้ง 8:00 - 9:00 pm. !! ขุ่นพระนั่นโปรหรือ ไม่เคยเจอโปรแบบนี้ที่ไหนมาก่อน ?!....ดื่มฟรีกันไปสำหรับสายแข็ง ดังนั้นที่นี่ถือว่าเป็นอันดับ 1 แหล่งรวมเหล่านักดื่มและนักท่องเที่ยวที่แวะมากันไม่ขาดสาย โดยเฉพาะโอปป้า(ดีงามมาก) สนุกสนานไปด้วยกิจกรรมมันส์ๆยามค่ำคืนอีกเพียบ ต้องมาเยือนกันหน่อย....หม่ะ พาทัวร์รอบๆ 🙂
ด้านในแบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดยบาร์น้ำหลายจุดโดยจุดแรกอยู่ด้านหน้าเลยจ้ะ บางครั้งก็มีการจับกลุ่มเล่นเกมส์ขำๆกัน เช่น โยนลูกปิงปองใส่แก้วเบียร์ Shotguns beer เป็นต้น และถัดกลางร้านคือเป็นบูท DJ เหมือนลานกลางแจ้งสำหรับแดนซ์ออนเดอะฟลอร์ (dance on the floor) สายย่อเชิญทางนี้เลยจ้ะ
ตรงมาด้านหลังจะมุมสงบๆหน่อย สายคูล สายเม้าท์มอย สายจับกลุ่มคุยกันจะอยู่ด้านหลังข้างๆกองไฟ คนแน่นร้านตลอดทั้งคืน ยิ่งดึกหนุ่มโอปป้าจะมาเยี่ยมเยือนที่นี่กัน (และจะมาเป็นทีม!) นั่งชมวนไปค่ะ ณ จุดนี้ <3
รวมโปรโมชั่นและกิจกรรมตลอดคืน
เปิดทุกวันทำการ
โทร : +856 20 78 008 555
Free Drinks 8:00 - 9:00 pm.
Happy Hour 9:00 - 10:00 pm.
ซื้อเครื่องดื่มวอดก้า 2 ดริ้ง (50000 กลีบ) รับเสื้อซากุระของทางร้านฟรี !
Shotguns beer (เพียงแค่ 10000 กลีบ) ถ้าไม่รู้เค้าเล่นยังไงก็เลื่อนขึ้นไปดูด้านบนเราเขียนไว้ละ ฮี่ๆ หรือถาม Staff ที่นั่นก็ได้จ้ะ
scene ก่อนนอน!
ตัวตายตัวแทนของน้องกับคืนสุดท้ายสายปาร์ตี้ (แหม...แฟนก็ชอบทำ Scene ล้อเลียนไง)
ขากลับพวกเราจองรถวังเวียงมาลงตัวเมืองเวียนเทียนโดยรถจะมารับด้านหน้าที่พักและตรงเวลามาก แล้วซื้อตั๋วต่อไปอุดรที่สถานีรถบัส โดยจะเป็นสีเขียวขนาดเล็ก นั่งสบาย ไม่แย่จนเกิน มีเบาะเสริมแบบเจ้เกียวบ้านเราด้วยนะ ! ตกแค่คนละ 22000 กีบหรือ 93 บาทเองจ้ะ
แวะชิลที่อุดรธานี
แวะชิลตลาดนัดกลางคืนและลานเบียร์ ดนตรีสดตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีขนส่งอุดรธานีมากนัก อาหารอร่อย และถูกมาก (ก...ไก่ล้านตัว) ถ้าเทียบกับที่ลาวอ่ะนะ งานกินเที่ยวก่อนขึ้นเครื่องกลับกรุง 😛
สรุปทริปวังเวียง 5 วัน 4 คืน
ทริปเที่ยวใช้ชีวิต Slow Life ที่วังเวียงประเทศลาวเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมได้เลย ทั้งบรรยากาศที่นี่ดีต่อใจสุดๆ ใกล้ชิดธรรมชาติ และได้ทำกิจกรรมสนุกๆของที่นี่ รู้สึกผ่อนคลายดีนะ ถ้าเอาความชอบส่วนตัวสำหรับทริปนี้ขอยกให้การเปิดประสบการณ์และลองทำอะไรใหม่ๆที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนตามสไตล์นักท่องเที่ยวสายแบ็กแพ็ค เลยทำให้เข้าใจได้เลยว่า "ทำไมนักท่องเที่ยวมาเยือนที่วังเวียงแล้วไม่อยากกลับ" แค่จะบอกลาวันสุดท้ายยังยากเลย ขอบอกตามตรง...โดยเฉพาะบรรยากาศที่พัก ริเวอร์ไซด์ บูติค รีสอร์ท (Riverside Boutique Resort) มันแบบ...."สวยสมกับเป็นรีสอร์ทที่ดีที่สุดในวังเวียง" เลยอ่ะแกร เคลียร์ได้เที่ยวแบบมันส์ครบรสทั้งสายแบ็กแพ็กและสัมผัสความหรูหราแบบบูติคพื้นเมืองอย่างแท้จริง ประสบการณ์อันคุ้มค่านี้ที่เคลียร์เก็บภาพความทรงจำทั้งหมดแล้วถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือให้เพื่อนๆได้อ่าน เชื่อว่าทุกคนจะรักวังเวียงและแพลนทริปเที่ยวตามเคลียร์มาอย่างแน่นอน จุ้ฟ เจอกันทริปหน้าค่ะ 🙂
Leave a Reply